3 ข้อเช็คลิสก่อนคิดจดทะเบียนนิติบุคคล

.

.

สวัสดีครับผมกอล์ฟ  ประสบการณ์ด้านการรับจดทะเบียนมากกว่า 5 ปี จดทะเบียนต่างๆให้ลูกค้ามาแล้วมากกว่า 100 ราย วันนี้จะมาช่วยคุณดูว่าคุณพร้อมแล้วหรือยัง? ที่จะเปลี่ยนจากบุคคลธรรมดาเป็นนิติบุคคล โดยผมมีสามข้อเช็คลิสนี้ที่จะช่วยคุณตัดสินใจว่าคุณควรทำธุรกิจในนามนิติบุคคลดีหรือไม่ครับ  รับจดทะบียนบริษัท

ข้อแรก  คุณควรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือไม่?

  • ถ้าคุณกำลังทำธุรกิจในรูปแบบบุคคลธรรมดาอยู่และกำลังคิดว่าควรจะจดทะเบียนบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนดีมั้ย ผมขอบอกคุณแบบนี้ครับว่า ตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 สรรพากรได้ร่วมมือกับทางธนาคาร เพื่อเค้าจะได้รับข้อมูลธุรกรรมทางการเงินจากธนาคารมาตรวจสอบ ซึ่งใครก็ตามที่เข้าเกณฑ์ที่สรรพากรกำหนด ก็จะถูกธนาคารส่งข้อมูลให้สรรพากรโดยตรงเพื่อนำไปไว้สุ่มตรวจคนที่ยังหลบภาษีหรือยื่นภาษีไม่ถูกต้องอยู่

  • บุคคลธรรดาที่มีรายการเงินเข้าออกเยอะๆ เช่นขายของออนไลน์ หรือ ให้บริการต่างๆ ก็จะเข้าข่ายนี้ ซึ่งหากคุณเป็นคนนึงในกลุ่มนี้และที่ผ่านมาคุณอาจจะจ่ายภาษีแบบเหมา หรือไม่ได้จ่ายภาษีเลย หากสรรพากรได้รับข้อมูลทางการเงินและพบว่าคุณยื่นภาษีไม่ถูกต้อง สิ่งที่คุณจะเจอคือเบี้ยปรับและเงินเพิ่มจำนวนมหาศาล จากการที่คุณไม่ได้เข้าสู่ระบบอย่างถูกต้องนั่นเอง
  • สิ่งที่เป็นตัวช่วยคุณในการตัดสินใจก็คือ หากคุณทำธุรกิจส่วนตัวเพียงอย่างเดียว แล้วก็ไม่ได้มีรายได้ทางอื่น หรือทำธุรกิจส่วนตัวคู่กับงานประจำแต่มีรายได้จากธุรกิจที่ยังไม่สูงมากเช่นอยู่ในระดับแค่หลักหมื่นหรือหลักแสนต้นๆ คุณยังสามารถไปต่อในรูปแบบบุคคลธรรมดาได้ครับ แต่หากยอดขายจากธุรกิจของคุณเยอะจนแตะระดับหลักหลายแสน หรือยอดเกิน1.8 ล้านต่อปีไปแล้ว ผมแนะนำว่าคุณควรจะทำธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลไปเลย นิติบุคคลนั้นมีสองแบบครับคือบริษัทและห้างหุ้นส่วน ซึ่งหากคุณเข้าเกณฑ์ตามที่กล่าวมา การจดทะเบียนเป็นบริษัทหรือห้างฯจะช่วยประหยัดภาษีของคุณและทำให้คุณปลอดภัยจากสรรพากรมากกว่าครับ รับจดทะบียนบริษัท

ข้อสอง  ธุรกิจคุณจะจดทะเบียนการค้าดีหรือไม่? ถ้าจดทะเบียนการค้าแล้วต้องจดเป็นนิติบุคคลอีกหรือเปล่า และควรเข้าระบบVATเลยดีมั้ย?

  • ข้อนี้เป็นสิ่งที่หลายๆคนเข้าใจผิด ว่าพอตัวเองได้ไปจดทะเบียนการค้าหรือทะเบียนพาณิชย์แล้ว ถือเป็นการเข้าระบบอย่างถูกต้อง ซึ่งจริงๆแล้วตรงส่วนนี้ถือว่าเป็นคนละหน่วยงานกันครับ เพราะหน่วยงานที่ดูแลเรื่องการจดทะเบียนการค้าคือกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ส่วนหน่วยงานที่ดูแลจัดเก็บภาษีคือกรมสรรพากร ซึ่งหากคุณจดทะเบียนการค้าในนามบุคคลธรรมดา คุณก็ยังไม่ถือว่าได้ทำถูกต้องตามหลักของกรมสรรพากรนะครับ ดังนั้นนอกจากการจดทะเบียนการค้าแล้ว คุณควรดูเรื่องของภาษีด้วยครับ ว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ (ทะเบียนการค้าจะเป็นตัวชี้เป้าให้แก่สรรพากรให้มาดูว่าเราเสียภาษีถูกต้องหรือไม่) รับจดทะบียนบริษัท
  • ซึ่งหากคุณเลือกที่จะเสียภาษีแบบถูกต้อง และมองแล้วว่าการจดทะเบียนบริษัทหรือห้างฯจะช่วยคุณประหยัดภาษีได้มากกว่า คุณก็ควรเลือกจดทะเบียนเป็นบริษัทหรือห้างฯให้ถูกต้องไปเลยดีกว่าครับ เมื่อคุณจดบริษัทแล้วคุณไม่จำเป็นต้องไปจดทะเบียนการค้าซ้ำอีกครับ เพราะการเป็นบริษัทหรือห้างฯนั้นครอบคลุมการจดทะเบียนการค้าอยู่แล้ว (เว้นแต่ทำการค้าออนไลน์ ต้องจดทะเบียนพานิชย์อิเลคทรอนิกส์เพิ่มครับ)

  • สำหรับเรื่องการเข้าระบบVATนั้น ถ้าคุณอยู่ไม่ได้อยู่ในธุรกิจที่ได้รับยกเว้นVAT หากยอดขายของคุณถึง 1.8 ล้านต่อปีเมื่อไหร่ คุณจะต้องระบบVATโดยทันที ข้อนี้หลายๆคนอาจพลาดคิดไปว่าตอนนี้สถานะเป็นแค่บุคคลธรรมดาเฉยๆ ไม่เคยจดทะเบียนอะไรเลย จะต้องเสีย VAT ด้วยหรอ ต้องเป็นนิติบุคคลอย่างบริษัทเท่านั้นหรือเปล่า ที่ต้องเสียVAT? รับจดทะบียนบริษัท
  • คำตอบคือ แม้ว่าคุณจะเป็นบุคคลธรรมดาก็ตาม แต่ถ้าหากคุณมีรายได้เกิน 1.8 ล้านต่อปีแล้ว คุณเองก็ต้องเข้าระบบVAT ด้วยครับ นี่เป็นข้อผิดพลาดของหลายๆคนครับ เพราะถ้าคุณโดนสรรพากรเรียกตรวจ คุณจะต้องโดนVAT7% ย้อนหลัง นับตั้งแต่วันที่รายได้ของคุณเกิน1.8 ล้าน (ซึ่งมันอาจจะผ่านมาแล้วหลายปีแล้วก็เป็นได้ครับ)นอกจากนี้ยังมีพวกค่าปรับ ที่เดินตามเวลา ซึ่งเริ่มคิดคุณตั้งแต่วันแรกที่ยอดขายของคุณเกินตัวเลข 1.8 ล้านนั้นมา ถ้าโดนปรับในนามบุคคลทางสรรพากรมีสิทธิ์จะอายัดบัญชีเราได้ด้วยครับ รับจดทะบียนบริษัท
  • ดังนั้นหากธุรกิจที่คุณทำอยู่เข้าข่ายที่ต้องเสีย VAT และมีรายได้เกิน 1.8 ล้านต่อปีแล้ว  ผมแนะนำให้คุณจดทะเบียนบริษัทหรือห้างฯไปเลยครับ  และให้เงินเข้าออกผ่านบริษัทหรือห้างฯแทน บุคคลจะไม่เสี่ยงโดนอายัดบัญชี แต่ถ้าหากยอดขายของคุณยังไม่ถึง1.8ล้าน คุณลองดูที่ผมจะบอกต่อไปนี้ครับว่า คุณควรเข้าระบบVAT ไปเลยดีมั้ย รับจดทะบียนบริษัท
  • การเข้าระบบVAT ก็มีข้อดีของมันคือ หากคุณไปซื้อสินค้าหรืออุปกรณ์ต่างๆที่เกี่ยวกับธุรกิจของคุณ และได้ใบกำกับภาษีมา คุณจะได้ภาษีจากใบกำกับที่คุณจ่ายเงินไป เรียกว่า “ภาษีซื้อ”ครับ ซึ่งภาษีซื้อนี้เอาไว้ใช้หักกับภาษีในฝั่งขาย หรือจากการที่คุณได้ให้บริการลูกค้าของคุณและไปเรียกเก็บเงินเค้า ภาษีตัวนี้เรียกว่า”ภาษีขาย”ครับ ถ้าหากคุณมีภาษีซื้อเยอะ ก็จะทำให้คุณเสียภาษีน้อยลงเพราะจะเอาไปหักกลบลบกัน (ภาษีขาย-ภาษีซื้อ)
  • ดังนั้นถ้าคุณกำลังจะต้องลงทุนอะไรก็ตาม เช่นลงทุนสร้างโรงงาน หรือ ลงทุนซื้อเครื่องจักรราคาแพง หรือลงทุนซื้อของมาไว้เป็นสต๊อคจำนวนมาก การเข้าระบบ VAT ก่อนยอดขายของคุณจะถึง 1.8 ล้าน จะทำให้คุณได้ประโยชน์จากการตุนภาษีซื้อไว้เพื่อจะใช้หักกับภาษีขายในอนาคตได้ครับ หรือหากธุรกิจคุณสามารถผลักภาระไปให้ลูกค้าได้(คือเรียกเก็บค่า VAT กับลูกค้าเพิ่มได้)และฝั่งที่คุณจ่ายซื้อไปนั้น คุณได้ใบกำกับภาษีซื้อแบบถูกต้องมา ถ้าคุณเข้าข่ายแบบนี้แล้วละก็ผมก็แนะนำให้เข้าระบบVATไปด้วยเลยครับเพราะจะทำให้คุณมีต้นทุนต่ำกว่าแบบการไม่เข้าระบบVAT

ข้อสาม จดเป็นนิติบุคคลแบบไหนดี บริษัท หรือ ห้างหุ้นส่วนจำกัด

อันไหนดีกว่ากัน?

  • ถ้าคุณคิดว่าคุณจะจดเป็นนิติบุคคลแล้ว มาดูกันครับว่าคุณเหมาะที่จะเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนจำกัดมากกว่ากัน โดยดูจากความต่างของทั้งสองแบบได้ ตามนี้ครับข้อแตกต่างระหว่างบริษัทกับห้างหุ้นส่วน

          ข้อแรก การจัดตั้งเป็นห้างหุ้นส่วนนั้นต้องมีคนที่รับผิดชอบแบบไม่จำกัดจำนวนครับ หมายถึงว่าหากห้างหุ้นส่วนโดนฟ้องและมีทรัพย์สินไม่เพียงพอที่จะชำระหนี้ จะต้องมีคนนึงที่รับผิดต่อหนี้ที่โดนฟ้องนั้นต่อจากตัวห้างฯ
(ห้างโดนฟ้องก่อน พอห้างฯไม่มีเงินจ่าย เค้าสามารถมาฟ้องเอากับหุ้นส่วนต่อได้ครับ)และคนที่รับผิดต่อไปนั้น ก็คือคนที่เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการของห้างฯ(เหมือนเป็นกรรมการบริษัท)ซึ่งต้องรับผิดในมูลหนี้ที่เหลือนั้นแบบไม่มีลิมิต ไม่เหมือนกับฝั่งบริษัทที่เรารับผิดแค่ทุนที่เราจดไว้เท่านั้นเอง

          ข้อสอง สำหรับด้านภาษีนั้น ทั้งบริษัทและห้างหุ้นส่วนมีภาระภาษีไม่ต่างกันเลยครับ  การเป็นห้างหุ้นส่วนนั้นไม่ได้ช่วยประหยัดภาษีมากกว่าบริษัทแต่อย่างใดครับ แต่การเป็นห้างหุ้นส่วนอาจช่วยคุณประหยัดค่าจดทะเบียนจัดตั้งตอนเริ่มต้น และประหยัดค่าสอบบัญชีประจำปีได้บางส่วนครับ

          ข้อสาม เรื่องจำนวนคนที่ใช้จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจะใช้แค่สองคนในการจัดตั้ง ส่วนบริษัทใช้สามคนในการจัดตั้งครับ

กล่าวโดยสรุปครับ ผมแนะนำว่า หากคุณหาคนมาร่วมหุ้นกันได้ถึงสามคน คุณควรจดเป็นรูปแบบบริษัทดีกว่าครับ เพราะคุณจะมีความปลอดภัยในการดำเนินธุรกิจมากกว่า (เวลาเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่โดนฟ้องต่อมาที่ตัวคุณ)

ถ้าคุณยังไม่แน่ใจว่าควรจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลดีหรือไม่ ลองแอดไลน์ หรือโทร 0639247462 เพื่อสอบถามผมได้โดยตรง ผมยินดีที่จะช่วยค้นหาทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณครับ

[siteorigin_widget class=”SiteOrigin_Widget_Image_Widget”]

Comments

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *